Seohyun Transformed Into Seophie

seohyun-2

160113 – แปลบทสัมภาษณ์ซอฮยอนจาก Playdb : ตามหาพ่อกับซอฟีในมิวสิคัล Mamma Mia! 

ตอนนี้งานแถลงข่าวละครเวที Mamma Mia ก็เพิ่งจะจบลงไป
“เป็นบรรยากาศที่สนุกสนานใช่มั้ยล่ะคะ (หัวเราะ) ละครเวทีเรื่องนี้เป็นอะไรที่มีชีวิตชีวาและบรรยากาศตอนซ้อมก็ดีมาก ๆ ด้วยค่ะ มันช่วยเติมพลังให้ทุกคน เพราะแบบนั้นถึงฉันจะเหนื่อยจากตารางงาน แต่สุดท้ายเมื่อได้มาซ้อมละครเวทีก็จะได้รับพลังมาอย่างเต็มเปี่ยมเลยค่ะ”

(นักแสดงที่รับบท)คุณแม่และเพื่อน ๆ คุณแม่ต่างก็ร่วมงานกันมาเป็นเวลานานและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่สำหรับคุณที่เป็นนักแสดงใหม่(ในมิวสิคัลเรื่องนี้) เป็นเรื่องยากมั้ยกับการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนักแสดงที่สนิทสนมกันอยู่ก่อนแล้ว
“ภาพลักษณ์ของฉันเหมาะกับละครเวทีเรื่องนี้มากนะคะ! มันน่าทึ่งมาก ๆ เลย หลังจากวันแรกผ่านไปพวกเราก็เข้ากันได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ คือในวันแรกที่ได้เจอกัน ฉันจะทักทายแบบ “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันซอฮยอนนะคะ” (พูดแบบนุ่มนวล) แต่หลังจากวันนั้นก็กลายเป็น “หวัดดีค่ะทุกคน!” (หัวเราะ) ฉันคุ้นเคยกับคนอื่นได้ง่าย ก็เลยพูดคุยกันได้แบบไหลลื่นสุด ๆ เลยค่ะ (หัวเราะ)”

ภาพของคุณที่เคยเห็นจากสื่อดูจะเป็นคนที่พูดน้อยและจัดการเรื่องของตัวเองได้เป็นอย่างดี  เลยค่อนข้างน่าแปลกใจที่ได้ยินว่าคุณชอบบรรยากาศที่อึกทึกแบบนี้นะ
“ความจริงแล้วฉันเป็นคนร่าเริงมากนะคะ ยิ่งเวลาได้อยู่กับคนที่สนิทด้วยก็จะยิ่งร่าเริงสุด ๆ เลยค่ะ คนเราก็มีหลาย ๆ ด้าน ฉันก็มีด้านที่พูดน้อย แต่ปกติแล้วจะเป็นคนช่างพูดมากกว่านะคะ ฉันว่าบางทีฉันก็ควรจะแสดงด้านที่สดใสกว่านี้ของตัวเองออกมาด้วยค่ะ”

ดูเหมือนจะมีละครเวทีหลายเรื่องที่อยากเชิญคุณไปลองคัดเลือกดู ได้ยินมาว่าคุณได้ทำไดอารี่ของดอนน่ามาด้วยในวันที่สัมภาษณ์  อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณอยากเล่นมิวสิคัลเรื่องนี้ ?
“ฉันยังเป็นน้องใหม่ค่ะ ก็เลยมีละครเวทีหลาย ๆ เรื่องที่อยากเล่น Mamma Mia ก็เป็นละครเวทีที่เหมาะกับวัยของฉันในตอนนี้กับการรับบทโซฟี ฉันก็เลยอยากเล่นเรื่องนี้มากจริง ๆ และเป็นเรื่องดีมากเลยค่ะที่มีการคัดตัวนักแสดงด้วย ฉันก็เลยไปคัดตัวด้วยความตื่นเต้นมาก แล้วฉันก็เอาไดอารี่ของดอนน่าไปด้วยค่ะ (หัวเราะ)”

อะไรคือส่วนที่มีความคล้ายและแตกต่างกัน ระหว่างโซฟีกับซอฮยอน
“เรามีพื้นฐานนิสัยเหมือนกันค่ะ ยกตัวอย่างเช่นการเป็นคนอยากรู้อยากเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนที่ฉันทำงานด้วย พนักงานในคลีนิกดูแลผิว หรือพี่ ๆ ช่างทำผม… ในทุก ๆ วันฉันจะถามพวกเขาว่า “ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ล่ะคะ? แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น?” เมื่อไรที่ได้เห็นฉัน พวกเขาทุกคนจะตกใจมากเลยล่ะค่ะ (หัวเราะ) ฉันไม่สามารถหยุดยั้งความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้เลยค่ะ นี่เป็นส่วนที่คล้ายกับโซฟี อ้อ.. แล้วส่วนที่ต่างเหรอคะ? ฉันรู้ค่ะว่าพ่อของฉันเป็นใคร“

ในเรื่องนี้โซฟีได้ส่งบัตรเชิญงานแต่งงานให้กับผู้ชาย 3 คนที่คิดว่าเป็นพ่อของตัวเอง คุณเองเคยทำอะไรที่กล้าบ้าบิ่นแบบนี้บ้างมั้ย?
“ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันไม่ชอบเวลาที่พ่อสูบบุหรี่ค่ะ  ฉันก็เลยเอาบุหรี่ทั้งหมดใส่เข้าไปในปากเพราะฉันไม่อยากให้พ่อสูบมันอีก  ตอนนั้นฉันคิดว่า ‘มันจะดีมั้ยถ้าฉันจัดการทิ้งบุหรี่พวกนี้ให้หมด?’ แต่หลังจากที่พ่อเห็นฉันทำแบบนั้น  พ่อก็ไม่เคยสูบบุหรี่อีกเลยค่ะ ฉันยังจำเรื่องในวันนั้นได้ดีเลย กลิ่นมันฉุนมากเลยค่ะ”

Mamma Mia มีเรื่องของการเต้นมากกว่าใน The Moon that Embraces The Sun และ Gone With the Wind
“มันเป็นอะไรที่เหนื่อยกว่าการเต้นของโซนยอชิแดอีกนะคะ (หัวเราะ) พลังของฉันจะลดลงตลอดหลังจากการแสดงแต่ละครั้ง กับ Mamma Mia นี่ถือเป็นมิวสิคัลที่กินพลังที่สุดเลยค่ะ  มีฉากเต้นเยอะมากตลอดทั้งเรื่องเลย  ในช่วงก่อนจะจบก็มีฉากเต้นถึงสามเพลงต่อเนื่องกัน ในตอนแรกฉันตามไม่ทันเลยค่ะ “ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย?” แล้วฉันก็ยังคงต้องร้องเพลงไปด้วย แต่เมื่อได้ซ้อมมากขึ้นก็กลายเป็นรู้สึกตื่นเต้นค่ะ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในตอนนี้คือการดูแลเรื่องพลังของตัวเอง ฉันต้องเพิ่มระดับเกล็ดเลือด ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอมากขึ้น และการต้องร้องไปด้วยวิ่งไปด้วยแบบนี้ เรื่องของการควบคุมลมหายใจก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเหมือนกันค่ะ”

คุณมีวิธีจัดการเรื่องร่างกายอย่างไร
“ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและเล่นพิลาทิสแบบต่อเนื่องค่ะ แต่ฉันก็งานยุ่งเกินกว่าจะทำอย่างสม่ำเสมอได้ แต่ที่บ้านฉันมีลู่วิ่งค่ะ ก็เลยได้ฝึกร้องในขณะที่วิ่งไปด้วย”

ดูเหมือนว่าคุณจะมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณอคจูฮยอนบ่อย ๆ
“พี่จูฮยอนเป็นต้นแบบของฉันค่ะ ฉันคิดว่าฉันได้ดูมิวสิคัลที่พี่เขาเล่นทุกเรื่องเลยนะคะ เมื่อก่อนเวลาฉันดูมิวสิคัลฉันก็จะคิดว่า “โอ้ มันน่าสนใจนะเนี่ย” แต่พอได้ดูมิวสิคัลที่พี่เขาเล่น ฉันก็ช็อคไปเลยค่ะ “คน ๆ นี้มีจริงอยู่บนโลกนี้ได้ยังไงกัน?” จากนั้นฉันก็เลยเริ่มสนใจมิวสิคัลค่ะ พี่เขาเหมือนเป็นประตูพาฉันออกไปสู่โลกของมิวสิคัล ฉันรู้สึกขอบคุณพี่จูฮยอนมากเลยค่ะ เธอเป็นทั้งต้นแบบและครูของฉันเลย “

เวลาที่ได้เจอกัน คุณสองคนคงจะมีเรื่องให้คุยกันเยอะเลย
“พี่เขาคอยรับฟังเวลาที่ฉันมีเรื่องเศร้าใจอยู่หลายครั้งค่ะ เวลามาดูมิวสิคัลที่ฉันแสดง พี่เขาก็จะมาอยู่ที่บ้านฉันและช่วยสอนจนถึงเช้ามืดเลยค่ะ พี่จูฮยอนเป็นครูที่มีส่วนผลักดันฉันมาก ๆ ฉันได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากพี่จูฮยอนเวลาที่ได้ดูการแสดงของพี่เขาค่ะ ฉันอยากจะเป็นมืออาชีพแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กแล้ว เมื่อได้ดูการแสดงมิวสิคัลของพี่จูฮยอนแล้วความคาดหวังของฉันจะสูงมากค่ะ ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเท่าไรแล้วกับการดูมิวสิคัลในปัจจุบันนี้ (หัวเราะ)

ตอนที่ไปนิวยอร์ค ฉันคิดว่าการแสดงระดับบอร์ดเวย์น่าจะยอดเยี่ยมเหมือนของพี่เขา แต่ฉันกลับรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยค่ะ เพราะแบบนั้นฉันเลยมีความมุ่งมั่นมาก ๆ ว่าจะต้องเป็นนักแสดงที่มีความรับผิดชอบและทบทวนอะไรให้มาก ๆ พี่จูฮยอนเป็นคนที่ดูแลตัวเองได้ดีมาก ๆ ด้วยค่ะ เธอไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเจ็บป่วยและรักษาระดับของตัวเองให้ดีเยี่ยมอยู่เสมอ ถึงจะแสดงมิวสิคัลเป็นร้อยรอบหรือพันรอบ แต่พี่เขาจะคิดอยู่เสมอว่าผู้ชมทุกคนต่างก็มาดูเป็นครั้งแรกและเธอก็จะทำอย่างเต็มความสามารถเสมอค่ะ พี่จูฮยอนเป็นคนที่น่าชื่นชมมาก ๆ ฉันอยากเป็นให้ได้แบบเธอค่ะ”

ก่อนที่จะมาแสดงละครเวทีคุณมักจะพูดถึงมิวสิคัลอยู่เสมอ ๆ ทำไมคุณถึงชอบมันมากขนาดนี้
“ใช่ค่ะ ฉันชอบมิวสิคัลมาก แต่ฉันก็ยังไม่รู้แนวทางที่แน่ชัดว่าอะไรเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับฉันนะคะ ฉันแค่รู้สึกมีความสุขที่ได้ดูมิวสิคัล มันเหมือนการได้ค้นพบโลกใบใหม่เลยค่ะ การเข้ามาในโลกใบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกทึ่งมาก ๆ ฉันรู้สึกมีความสุขมาก กับมิวสิคัลเรื่องแรกของฉันแล้วมันยากสุด ๆ เลยค่ะ การร้อง การแสดง การสื่ออารมณ์มันเป็นอะไรที่แตกต่างกันหมด แต่ฉันก็รู้ว่าทำไมฉันถึงอยากแสดงมิวสิคัล แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่ฉันทำได้ดีเยี่ยม แต่มันทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวาค่ะ มันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของฉันไปเลย เป็นอะไรบางอย่างที่ฉันมีความสนใจอย่างลึกซึ่งและสนุกกับมัน ฉันชอบมันมาก ๆ ค่ะ รู้สึกมีความสุขมาก ๆ”

เพลงโปรดของคุณในมิวสิคัล Mamma Mia?
“เพลง Thank you for the music ค่ะ เป็นเพลงที่ท่วงทำนองไพเราะและฉันก็รู้สึกเหมือนกับในเนื้อเพลงด้วยค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณที่โลกนี้มีเสียงเพลง ฉันฟังเพลงบ่อย ๆ และรู้สึกว่าเพลงสามารถเปลี่ยนบรรยากาศรวมไปถึงเปลี่ยนอารมณ์และความคิดของฉันได้ ไม่ใช่แค่เท่านั้นนะคะ แต่ฉันยังรู้สึกด้วยว่านี่เป็นเพลงที่ดีมาก ๆ มันเป็นเพลงโปรดของฉันค่ะ”

มีนักแสดงสามคนที่รับบทโซฟี แล้วโซฟีของซอฮยอนนั้นเป็นแบบไหน?
“ฉันจะไม่เติมแต่งอะไรที่มากเกินไปให้โซฟีค่ะ  จริง ๆ แล้วตัวฉันเองเป็นคนที่ร่าเริงมาก ๆ  ดังนั้นฉันจะเอาความร่าเริงนี้มาอยู่ในตัวโซฟีที่สดใสซาบซ่าและสบาย ๆ แต่ก็อาจจะเติมอะไรบางอย่างเข้าไปด้วยนิดหน่อยค่ะ (หัวเราะ) ฉันจะไม่ทำให้มันออกมาแย่หรอกค่ะ ฉันจะทำมันอย่างดีเลย (หัวเราะ) แล้วฉันก็จะแสดงตัวตนบางมุมในชีวิตจริงของฉันออกมาด้วย  ฉันตื่นเต้นค่ะ”

อยากจะฝากอะไรถึงผู้ชมที่จะมาชม Mamma Mia
“นักแสดงที่ทำงานหนัก มีความรับผิดชอบและไว้วางใจได้.. ฉันอยากจะแสดงมันออกมาให้ทุกคนได้เห็นค่ะ มาชมกันนะคะ! ฉันจะปล่อยพลังที่มีทั้งหมดบนเวทีเลยค่ะ! (หัวเราะ)”

 


Source : Playdb.co.kr
Chinese Trans : SJH bar.
Eng Trans : @Seogeneration11, @crucial_gg
Thai Trans : @theniaz

Leave a comment