The Place Where Bada and Seohyun Meet

141217 – แปลบทสัมภาษณ์ซอฮยอนจาก Singles ฉบับเดือนมกราคม 2015 

บาดาและซอฮยอน เตรียมรับบทบาทเป็นสการ์เลตต์ โอฮารา หญิงสาวผู้มีช่วงชีวิตดั่งเช่นดวงตะวันในมิวสิคัล Gone with the Wind

สการ์เลตต์ในความทรงจำของพวกเราส่วนใหญ่จะมาจากเวอร์ชันภาพยนตร์คลาสสิคในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ บทประพันธ์เดิมของเรื่องนั้นได้รับรางวัลพูลิเซอร์ ส่วนภาพยนตร์ที่หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ชมกับพ่อแม่ในวัยเด็กก็สามารถกวาดรางวัล Academy Awards (ออสการ์) ไปได้มากถึง 10 รางวัล กับภาพของวิเวียน ลีห์ที่งดงามเสียยิ่งกว่าตุ๊กตา เครื่องแต่งกายที่หรูหราและคฤหาสถ์หลังใหญ่ที่มีแต่ในนิยาย ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงและ ‘ลูกผู้ชายตัวจริง’ อย่างคลาร์ก เกเบิล และแม้เนื้อเรื่องจะเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของอเมริกา แต่ Gone with the Wind ก็นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีผู้คนหลงรักอยู่มากมายทีเดียว

สำหรับซอฮยอนที่ได้แคสติ้งผลงานมิวสิคัลเรื่องที่สองกับบทของ สการ์เลตต์ ก็ได้เผยว่า สำหรับเธอแล้ว Gone with the Wind เป็นเหมือน “โอกาสที่เหมือนกับฝันที่ฉันรอคอยมาด้วยความมุ่งมั่น” การที่เธอได้รับบทบาทนี้มาไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของโซนยอชิแดเลยแม้แต่น้อย

“ฉันคิดว่าฉันอาจจะทำมันไม่ได้ แต่ฉันต้องการที่จะรับบทนี้มากจริง ๆ ค่ะ ฉันก็เลยบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า ‘ฉันต้องทำได้’ ฉันเชื่อมั่นในตัวเองและตั้งใจฝึกอย่างหนัก ก็ถ้าฉันไม่เชื่อในตัวเองแล้วใครกันล่ะคะที่จะมาเชื่อ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า ‘ฉันได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้ว’ สำหรับการออดิชัน ฉันได้วิเคราะห์ตัวละครสการ์เลตต์มาอย่างละเอียด แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รู้ตัวนะคะว่าฉันยังบกพร่องในหลาย ๆ อย่าง ฉันจะพยายามฝึกซ้อมอย่างหนักต่อไปค่ะ” เธอยังได้กล่าวไว้ในงานแถลงข่าวด้วยว่า “ฉันจะทุ่มเทด้วยชีวิตของฉันเลยล่ะค่ะ” และเธอก็ได้รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในวันนั้นประดุจดั่งคำสาบาน แต่การทำงานควบคู่กันทั้งกิจกรรมของโซนยอชิแดและมิวสิคัลนั้น การจะจัดแบ่งเวลาให้ลงตัวถือเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสมาก

“แน่นอนค่ะว่าการฝึกซ้อมทำได้ยากเพราะฉันต้องทำกิจกรรมของโซนยอชิแดไปด้วย และฉันก็ขาดซ้อมของโซนยอชิแดไม่ได้เลยค่ะ เพราะในพวกเราถ้ามีใครขาดหายไปแม้แต่คนเดียว การจัดตำแหน่งท่าเต้นมันจะรวนไปหมด แต่ฉันก็ได้ไอเดียขึ้นมาค่ะฉันเลยขอให้แดนเซอร์เข้าไปซ้อมแทนตำแหน่งของฉันในการซ้อมกับวง แล้วก็อัดวิดีโอไว้เพื่อที่ฉันจะมาซ้อมแยกคนเดียวในตอนเช้า ฉันรู้สึกขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะที่พวกเราหาทางออกด้วยวิธีนี้ได้” ซอฮยอนยังได้เล่าให้ฟังด้วยว่า ในช่วงนี้เธอมีเวลานอนเฉลี่ยประมาณวันละ 3 ชั่วโมงเท่านั้น แต่สายตาของเธอก็ยังคงลุกโชนไปด้วยความมุ่งมั่น เหมือนจองแดมันในเรื่อง Slam Dunk อย่างไรอย่างนั้น

หากคุณได้ติดตามโซนยอชิแดมาบ้าง คุณก็คงจะทราบดีถึงความรักอย่างลึกซึ้งที่ซอฮยอนมีต่อมิวสิคัล เพราะเมื่อถูกถามว่า “อยากจะทำอะไรต่อไปในอนาคต” คำตอบที่จะได้ยินอยู่เสมอจากเธอก็คืองานด้านมิวสิคัล บรรดารูปถ่ายจากการชมมิวสิคัลหลาย ๆ เรื่องที่เธอโพสต์ลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์คก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นซอฮยอนก็ไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใด ก็เหมือนกับคนรักที่คุณอยากจะปกป้อง เพราะสำหรับซอฮยอนแล้ว มิวสิคัลเป็นสิ่งหนึ่งที่เธอต้องการจะทำมันไปอย่างยาวนาน เธอได้ทุ่มเทตัวเองอย่างมากกับมิวสิคัลเรื่องแรกใน Moon Embracing the Sun สำหรับเธอ นี่เป็นผลงานที่ล้ำค่าที่เป็นความฝันของเธอตลอดมา

“ตอนที่ฉันได้แสดงบนเวที ฉันมีความสุขมากจริง ๆ ค่ะ ปกติฉันก็ชอบดูมิวสิคัลมากอยู่แล้ว แต่พอเทียบกับการได้เล่นเองแล้ว มันเป็นอะไรที่สนุกกว่านั่งดูเป็นร้อยเท่าเลยล่ะค่ะ การแสดงของฉันไม่ได้สมบูรณ์แบบหรอกนะคะ แต่มันก็ทำให้ฉันหลงใหลการแสดงมิวสิคัลมากขึ้นไปอีกค่ะ”

สำหรับอาชีพนักแสดง การได้รับบทบาทใหม่นั้นเป็นสิ่งที่ทั้งท้าทายและน่าตื่นเต้น ซึ่งมิวสิคัล Gone with the Wind ก็เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของสการ์เลตต์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กสาวในวัย 16 ในปี 1861 จนถึงอายุ 28 ปี ผ่านช่วงชีวิตในยุคสงครามกลางเมืองของอเมริกา เกี่ยวพันทั้งเรื่องราวความรักและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงอายุเธอ และแม้จะอยู่คนละยุคสมัยแต่เด็กสาวที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกันอย่างซอฮยอน ก็สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกของตัวละครสการ์เลตต์ได้อย่างดี

“สการ์เลตต์เป็นคนที่รักตัวเองมากกว่าใครทั้งหมดค่ะ เธอไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง และเธอก็ใช้ชีวิตแบบคนที่มองไปแต่ข้างหน้า ในจุดนี้ฉันคิดว่าเรามีอะไรที่คล้ายกันค่ะ และพวกเราก็เป็นพวกโลภมากเหมือนกันด้วย พี่ ๆ บอกว่าฉันเป็นคนหัวแข็งมากค่ะ (หัวเราะ)”

หลังจากผ่านงานมิวสิคัลใน Moon Embracing the Sun มาแล้ว ซอฮยอนก็ได้รับการเรียนร้องเพลงเพิ่มเติมอยู่ตลอด ซึ่งการเป็นนักร้องของเธอนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียกับการแสดงมิวสิคัลด้วยเช่นกัน

“ฉันไม่ได้เริ่มเรียนเพราะสนใจด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะหรอกค่ะ แต่ฉันเรียนเพราะอยากจะเก็บเกี่ยวอะไรหลาย ๆ อย่าง ฉันอยากควบคุมการใช้เสียงได้หลาย ๆ แบบ แต่ตอนนี้ฉันยังทำได้แค่แบบเดียวเองค่ะ ตอนที่เล่นมิวสิคัล Moon Embracing the Sun ฉันพยายามอย่างมากที่จะไม่ร้องเหมือนกับตอนร้องเพลงป๊อบ สำหรับผลงานชิ้นต่อไป ฉันก็อยากจะปรับปรุงเรื่องการร้องให้ดียิ่งขึ้นค่ะ”

ส่วนบาดาเองนั้นก็เป็นนักร้อง แต่เธอได้คิดคำเรียกแทนตัวเธอขึ้นมาใหม่ในฐานะของนักร้องที่แสดงมิวสิคัลว่า ‘คามิวซ์’ (Gamuse : คามิวซ์, มาจากภาษาเกาหลี คา-ซู แปลว่า นักร้อง รวมกับคำว่า มิวสิคัล) นอกจากนี้ อีกนัยหนึ่งก็ยังหมายถึงเทพธิดาของกรีกอีกด้วย และบาดาก็เคยผ่านประสบการณ์เดียวกับซอฮยอนมาก่อนเช่นกัน

“หลังจากที่ฉันแสดงไป 2-3 เรื่อง ฉันก็เข้าเรียนร้องเพลงแบบแยกคลาสค่ะ นักร้องที่แสดงมิวสิคัลสามารถทำได้ดีในหลาย ๆ เรื่องนะคะ อย่างพวกแนวเพลงที่เน้นเสียงร้อง ถ้าจะยกตัวอย่าง อย่างในเกาหลีเมื่อก่อนนี้ก็จะมีผลงานมิวสิคัลหลาย ๆ เรื่องที่มาจากออสเตรีย แต่ในปัจจุบันนี้ก็มีมิวสิคัลที่มาจากฝรั่งเศสและอเมริกาด้วยเหมือนกัน คุณต้องมองเห็นถึงความแตกต่างของมันค่ะ แม้แต่ใน Gone with the Wind เอง ในองก์แรกก็จะมีเพลงที่คล้ายคลึงกับเพลงป๊อบเยอะมาก และตอนท้ายขององก์ที่สองก็จะเป็นเพลงที่ต้องเน้นการใช้เสียงร้องค่ะ แน่นอนว่านักร้องที่มาแสดงมิวสิคัล จะมีความสามารถในการทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินเกินกว่าที่พวกเขาคิดไว้เสียอีก ฉันเองก็คาดหวังและคอยสนับสนุนซอฮยอนเพื่อให้เธอประสบความสำเร็จกับงานทั้งสองอย่างค่ะ”

ดูเหมือนบาดาจะเอ็นดูซอฮยอนมากเป็นพิเศษ
“เวลาที่รู้สึกเหนื่อย ๆ ฉันก็อยากจะพักนะคะ แต่พอได้เจอซอฮยอนฉันก็รู้สึกเหมือนว่าอยากจะดูแลเธอค่ะ ฉันไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของคนบ้านเดียวกันหรือเรียนจบจากที่เดียวกันอะไรแบบนั้น แต่ฉันเดาว่าฉันมีความรู้สึกที่พิเศษต่อไอดอลรุ่นน้องที่เป็นผู้หญิงค่ะ ถึงแม้ฉันจะไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนก็ตาม”

และนี่ก็คือสการ์เลตต์ทั้งสองคนที่เราจะได้ชมการแสดงของพวกเธอในเดือนมกราคม ครั้งหนึ่ง มาร์กาเร็ต มิตเชลล์ ผู้ประพันธ์เรื่อง Gone with the Wind เคยกล่าวเอาไว้ว่า “เมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบาก จะต้องมีใครสักคนที่อยากจะเอาชนะมันเสมอ และคนพวกนี้ก็เป็นคนเฉลียวฉลาด ฉันอยากจะเขียนเรื่องราวของคนที่เป็นเช่นนั้นและคนที่ตรงกันข้าม” และนี่ก็คือคนในแบบที่เราอยากเจอ กับเรื่องราวที่เราอยากได้ยินจากพวกเธอ มาร์กาเร็ต มิตเชลล์กล่าวได้ถูกต้องแล้ว เพราะบาดาและซอฮยอนก็จะเป็นเช่นดวงอาทิตย์ ที่จะโผล่พ้นจากขอบฟ้าเพื่อส่องแสงแห่งวันใหม่ต่อไป

Source : thesingle.co.kr
Eng Trans : @SonexStella
Thai Trans : @theniaz