An Interview With the Vampire

ihzn8vsg8qold

121018 – แปลบทสัมภาษณ์ซอฮยอนจาก Ceci ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2012 

ใน Ceci ฉบับเดือนพฤศจิกายนนี้  เราได้พบกับซอฮยอนและรุ่นพี่ร่วมค่ายของเธอ ดงบังชินกิ ยุนโฮและชางมิน! ซึ่งนอกเหนือจากการถ่ายแบบที่น่าทึ่ง  ซอฮยอนก็ยังได้ให้สัมภาษณ์และพูดคุยกับเราถึงการคัมแบ็คของโซนยอชิแด  รวมถึงชีวิตประจำวันและการเติบโตของเธอด้วย

75f3b859gw1dxyfc37rmxj-e1350623053862

ได้ยินว่าคุณกำลังจะคัมแบ็คในเกาหลีเร็ว ๆ นี้
“หลังจากเสร็จคอนเสิร์ต SMTOWN LIVE WORLD TOUR 3 ที่จาการ์ต้าอาทิตย์หน้า พวกเราวางแผนที่จะโปรโมทเพลง ‘Oh’ ที่ญี่ปุ่นพร้อม ๆ กับเตรียมตัวสำหรับการคัมแบ็คอัลบั้มใหม่ที่เกาหลีค่ะ อัลบั้มใหม่นี้จะแตกต่างจากภาพเดิม ๆ ของพวกเรามากเลยล่ะค่ะ มันเหมือนกับเป็นการท้าทายขีดจำกัดของพวกเรา ฉันเองก็รอคอยว่าแฟน ๆ จะคิดยังไงถ้าได้เห็นและเพราะมันยังเป็นความลับอยู่ ฉันเลยรู้สึกกังวลนิดหน่อยค่ะ”

อยากรู้มากเลยว่าพวกคุณมีตารางงานอะไรบ้างในช่วงที่โซนยอชิแดไม่ได้โปรโมทในเกาหลี ดูเหมือนว่าจะงานยุ่งอยู่ตลอดเลย
“ถ้าเป็นช่วงนี้นอกจากกิจกรรมหลัก ๆ ของวงก็มีตารางงานส่วนตัวของแต่ละคนค่ะ วันว่าง ๆ ที่พวกเราไม่ต้องมีตารางไปที่ไหนมันมีน้อยมากค่ะ เพราะพวกเราต้องทั้งอัดเสียงหรือไม่ก็ซ้อมเต้นทั้งที่นั่นแล้วก็ที่นี่ แต่ถ้าฉันมีเวลาว่างมากพอสักหนึ่งในสี่ของวันก็จะออกกำลังกายประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ”

75f3b859gw1dxyfhp3888j-e1350623079166

คุณออกกำลังกายเพื่อสุขภาพมากกว่าเพื่อรักษารูปร่างเหรอ?
“เคยมีคนพูดไว้ว่า เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายของคนที่ออกกำลังกายและไม่ออกกำลังกายจะดูแตกต่างกันมาก เพราะแบบนั้นคุณเลยต้องเริ่มทำมันตั้งแต่ตอนนี้ค่ะ ถ้าคุณออกกำลังกายจนได้เหงื่อ ก็จะทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้นและยังเป็นวิธีที่จะทำให้ร่างกายของคุณตอบสนองได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ ดังนั้นฉันเลยรู้สึกดีไปกับมันค่ะ”

ตอนที่ได้ดูคุณในรายการ We Got Married ทางช่อง MBC ฉันคิดว่าคุณเป็นคนประเภทที่มองการณ์ไกลในเรื่องของอนาคต แต่เวลาก็ดูจะเป็นสิ่งที่ยิ่งเราอยากจะเก็บรักษาไว้เท่าไรก็ยิ่งผ่านไปเร็วมากเท่านั้น
“แทนที่จะคิดว่าไม่มีเวลามากพอ แต่ฉันกลับคิดบ่อยขึ้นว่า เวลามันผ่านไปเร็วมากจริง ๆ ค่ะ นี่ก็ผ่านมา 5 ปีแล้วจากที่ได้เดบิวต์ ตอนนี้ฉันเป็นพิธีกรในรายการ Music Core ทางช่อง MBC ค่ะ เผลอแป๊บเดียวก็มีนักร้องรุ่นใหม่ ๆ มากมายที่เข้ามาทักทายพวกเราในห้องเตรียมตัว มันเป็นอะไรที่ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไร พอได้ยินว่าพวกเขาเกิดปี 96 ฉันก็มาคิดว่า ‘พวกเขาเกิดปี 96 จริง ๆ เหรอเนี่ย’ แต่พอมาลองคิดดูเมื่อก่อนก็เคยมีรุ่นพี่ที่มาถามอายุของฉันเหมือนกันค่ะ ลองนับย้อนหลังไปก็นึกได้ว่าฉันเดบิวต์ตอนที่ฉันอายุ 17 เท่านั้นเองนี่นา (หัวเราะ) มันเหมือนฉันกระโดดข้ามเวลามาเลยค่ะ”

75f3b859gw1dxyflgg3hkj-e1350623090708

ลองเติมคำในช่องว่าง : เวลาผ่านไปเร็วแบบนี้ บอกตามตรงว่าฉันรู้สึก…..กลัวนิดหน่อย/ เสียใจนิดหน่อย/ ไม่รู้สึกอะไรเลย/ ตื่นเต้นเล็กน้อย/ หรืออะไรก็ได้ที่คุณอยากเติมลงไป
“เลือกข้อ 4 ค่ะ ฉันคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป ก็ทำให้มีโอกาสที่จะได้ลองทำอะไรสนุก ๆ มากขึ้น และฉันก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะเสียใจกับมันด้วยเพราะแม้ว่าฉันจะตัดสินใจอะไรผิดไป แต่ฉันก็ยังได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากมันค่ะ”

ในบทสัมภาษณ์ของ Ceci ปี 2009 โซนยอชิแด ยุนอาเคยบอกไว้เหมือนกันว่าเธอรู้สึกประหลาดใจกับจำนวนของรุ่นน้องที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแต่เธอก็ยังคงรู้สึกไม่คุ้นเคยเหมือนเดิม แล้วสำหรับคุณมีสิ่งไหนบ้างที่คุณคิดว่ามันไม่ได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
“ถ้าจะเปรียบเทียบกับตอนเดบิวต์ คุณค่าและความเป็นตัวตนของฉัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันเคยคิดว่าจะไม่มีทางเปลี่ยนไปได้ แต่มันก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้วค่ะ ทั้งเพื่อนและพี่ ๆ ในวงต่างบอกว่าฉันกลายเป็นคนที่สดใสและกระตือรือร้นมากขึ้น กล้าที่จะคิดท้าทายในสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นด้วยค่ะ มันไม่ใช่ ‘ฉันต้องใช้ชีวิตตามเส้นทางที่ถูกต้อง’ แล้วล่ะค่ะ แต่ฉันก็ต้องรู้ว่าสิ่งนั้นเป็นอะไรที่ใช่สำหรับฉันหรือเปล่า และฉันก็อยากจะมีประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ให้มากขึ้นด้วยเหมือนกัน แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องอะไรที่น่ากลัวหรอกนะคะ (หัวเราะ) เพราะแบบนั้นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสำหรับฉันก็คือแนวทางในการใช้ชีวิต แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือประสบการณ์ค่ะ การเริ่มต้นใช้ชีวิตในวงการที่ทุกคนต่างปฏิบัติกับฉันอย่างทะนุถนอมในฐานะน้องเล็ก มันทำให้ฉันต้องคิดทบทวนก่อนเสมอว่าสิ่งไหนที่ฉันควรและไม่ควรปฏิบัติกับคนรอบข้าง เหมือนกับการตอบคำถามที่ต้องการเพียงคำตอบว่าใช่หรือไม่ใช่นั่นแหละค่ะ ตอนนี้ฉันเชื่อว่าฉันต้องใช้ชีวิตด้วยหัวใจที่เปิดกว้างมากขึ้นเพื่อชีวิตที่ดีอย่างแท้จริงค่ะ”

75f3b859gw1dxyfw6w2rmj-e1350623066320

คุณได้ค้นพบเรื่องพวกนี้จากอะไร
“ตอนที่ฉันเดบิวต์ ฉันต้องทำงานในฐานะนักร้องในขณะที่ยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่ สำหรับฉันนั้นความรู้สึกที่ต้องทุ่มเทเวลาในฐานะนักเรียนมันเป็นเรื่องใหญ่มากค่ะ แต่พอฉันอายุ 20 ฉันก็เริ่มรู้สึกถึงภาระของการต้องทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง

(ยกตัวอย่างเช่น?) มันเป็นเรื่องของการจัดสรรเวลาค่ะ ถ้าเราเป็นนักเรียน ในชั่วโมงเลข เราเรียนเลขและก็เรียนไปตามตารางที่มีอยู่แบบนั้น แต่นี่มันเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับตัวฉันเองแล้วว่าจะใช้เวลาที่มียังไง สมมติว่าถ้าฉันเข้านอน นี่ก็จะเป็นเวลาพักผ่อน ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลย เวลาก็จะผ่านไปเฉย ๆ แต่แทนที่จะเป็นแบบนั้น ฉันก็จะใช้มันไปกับการอ่านหนังสือที่ยังอ่านค้างอยู่แทนค่ะ

(หมายความว่า คุณได้เข้าใจถึงความสำคัญของการแบ่งเวลา?) ใช่ค่ะ ในตอนแรกฉันใช้พลังอย่างมากเพียงเพื่อที่จะรับผิดชอบตารางงานของตัวเอง  ก็เลยไม่ได้ใช้เวลาทำอย่างอื่นนอกจากงานเลยค่ะ แล้วฉันก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นจนเหมือนไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเองเลย  หลังจากนั้นฉันก็มานั่งคิดว่า ‘ฉันได้ทำอะไรนอกเหนือจากการเป็นโซนยอชิแดบ้างเนี่ย? ฉันทำงานหนักมากเกินไปหรือเปล่า?’ ดังนั้นฉันจึงตั้งเป้าหมายในชีวิต แล้วก็รู้สึกว่าฉันควรจะพยายามหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ ๆ ทางอ้อมด้วยการอ่านหนังสือ เพราะสิ่งเหล่านี้จะสร้างคุณค่าดี ๆ ให้กับชีวิตของฉันในสักวันหนึ่งค่ะ”

75f3b859gw1dxyfy6abtbj-e1350623156704

มีเหตุการณ์ไหนที่ทำให้คุณได้คิดว่า ‘ในที่สุดฉันก็ได้พบกับสิ่งที่ท้าทายเพราะตัวตนของฉันเปลี่ยนไป?’
“ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นไอดอล แต่ฉันก็ยังรู้สึกเขิน ๆ ที่จะเปิดเผยตัวตนของฉันให้คนทั่วไปได้เห็นนะคะ แต่ว่าในตอนนี้ฉันก็เปลี่ยนไปจากเดิมมากแล้วล่ะค่ะ ฉันได้รู้ว่าการไปเดินห้างล้อตเต้เวิลด์หรือพระราชวังคยองบกกับเพื่อน ๆ เป็นอะไรที่สนุกมาก ๆ ฉันยังขอให้แฟน ๆ ชาวต่างชาติช่วยถ่ายรูปให้พวกเราด้วยนะคะ แล้วฉันก็ยังสนุกกับการไปเที่ยวงานนิทรรศการหรือพิพิธภัณฑ์ด้วยค่ะ เป็นสิ่งต้องขอบคุณจริง ๆ เวลาที่มีคนจำฉันได้ แต่ถึงแม้พวกเขาจะจำฉันไม่ได้ยังไงมันก็ยังสนุกอยู่ดีค่ะ ตอนนี้ฉันกับเพื่อน ๆ ตั้งใจจะใส่เครื่องแบบมัธยมแล้วไปเยี่ยมโรงเรียนเก่าของเราด้วยล่ะค่ะ”

ชีวิตคุณมีสีสันมากขึ้นแล้วตอนนี้ แล้วยังมีอะไรที่คุณอยากเปลี่ยนแปลงอีกหรือเปล่า เราลองมามองหาจากลักษณะพิเศษของพี่ ๆ ในวงของคุณกันดูดีมั้ย
“อย่างแรกเลย พี่ฮโยยอนเป็นคนที่มองทุกอย่างในแง่ดีค่ะ และเป็นคนที่คอยทำให้บรรยากาศสนุกสนานด้วย พี่ซูยองและพี่ทิฟฟานี่มีทักษะทางสังคมที่ดีมากค่ะ พี่ทั้งสองคนเลยรู้จักกับผู้คนมากมายและสามารถทำให้คนอื่นรู้สึกสบายใจด้วยนะคะ พี่แทยอนก็มีทักษะการร้องเพลงที่เป็นธรรมชาติ แล้วฉันก็คิดว่าพี่แทยอนเป็นคนที่สามารถสนับสนุนคนอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ พี่ยุนอาที่ดูเหมือนจะขี้อาย แต่ก็ดูเป็นธรรมชาติและมีมุมที่คาดไม่ถึงให้ได้เห็นกันด้วยนะคะ บางครั้งพี่ ๆ ก็เคยพูดกันขำ ๆ (ถึงยุนอา) ว่า “ถ้าคนที่น่ารักอย่างเธอดันมีบุคลิกที่เรียบร้อยด้วยแล้วเนี่ย มันจะต้องไม่สนุกแน่ ๆ เลย” พี่เจสสิก้าที่คนอื่นมักจะบอกว่าดูเป็นคนเย็นชา แต่จริง ๆ เป็นคนที่ชอบทำอะไรที่ตรงไปตรงมาและจะคอยเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นอยู่ห่าง ๆ ค่ะ สำหรับพี่ซันนี่ก็จะเป็นคนที่สดใสและมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ นอกจากนี้ก็ยังมีความเป็นผู้ใหญ่ด้วยค่ะ แม้ว่าพี่เขาจะเป็นน้องเล็กของบ้านและมีอายุห่างจากพี่สาวมากพอสมควร แต่ก็น่าประหลาดใจที่พี่เขาคิดอะไรได้อย่างลึกซึ้งจนพวกเราแกล้งแซวพี่ซันนี่บ่อย ๆ ว่าจริง ๆ แล้วพี่เค้าเกิดในปี 79 ต่างหาก ไม่ใช่ปี 89 หรอก บุคลิกพิเศษนี้ของพี่ ๆ เป็นสิ่งที่ฉันอิจฉาค่ะ”

75f3b859gw1dxyg4a851wj-e1350623117440

วันนี้คอนเซปต์ของเรามาจาก ‘An Interview With the Vampire’ ซึ่งสำหรับพวกเขาแล้วเวลานั้นไม่มีที่สิ้นสุด  ซึ่งถ้ามองแบบนี้แล้วมันสามารถกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวได้เลยทีเดียว และถ้าคุณได้รับโอกาสให้หยุดเวลาได้สามครั้ง  คุณจะนำไปใช้เพื่อสิ่งที่มีค่าสิ่งไหน
“ฉันอยากจะหยุดช่วงเวลาที่ฉันเดบิวต์ไว้ค่ะ ฉันอยากจะรู้สึกถึงการได้ทำอะไรเป็นครั้งแรกอีกครั้ง ไม่ใช่แค่จากในความทรงจำของฉันเพราะแบบนั้นฉันจะสามารถสะท้อนตัวเองและให้คำแนะนำกับตัวฉันเองได้ค่ะ ส่วนโอกาสอีกสองครั้ง ฉันอยากจะเก็บมันไว้ใช้กับเหตุการณ์ในอนาคตค่ะ”

75f3b859gw1dxygky1iswj-e1350623143633

สุดท้าย เป็นการสัมภาษณ์ซอฮยอนจากดงบังชินกิ! ซึ่งพวกเขาอยากรู้ว่าหนุ่มที่มีบุคลิกแบบไหนกันที่จะทำให้คุณหัวใจเต้นรัวได้ พวกเขายังบอกเคล็ดลับมาอีกด้วยว่า คุณอาจจะจะไม่ตอบแบบลงลึกถึงรายละเอียดมากเท่าไร จึงให้พวกเราค่อย ๆ ถามคุณแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อหาคำตอบลึก ๆ ในใจของคุณ

(เพิ่มเติม : คำถามที่ซอฮยอนถามดงบังชินกิคือ ‘เมื่อไรที่คุณรู้สึกว่าคุณยืนอยู่บนเวทีในฐานะนักร้องมาถึง 10 ปีแล้วจริง ๆ ?’ และ ‘สงสัยในฐานะแฟนเพลงว่าพวกคุณทำอะไรกันในวันที่ไม่มีตารางงาน?’)

“ฮ่า ๆ ถ้ายังงั้นฉันจะตอบแบบยาว ๆ ก็ได้ค่ะ อย่างแรกเลยฉันอยากให้เขาเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมาก ๆ มองโลกในแง่ดีและกระตือรือร้นค่ะ เป็นคนที่มีมารยาท มีอารมณ์ขัน ทำให้คนรอบข้างสบายใจที่จะอยู่ด้วย และแม้ว่ามันจะไม่ได้สำคัญในเวลานี้ แต่เป็นเรื่องสำคัญที่เขาจะต้องมีความเชื่อมั่นที่แน่วแน่และทำงานหนักเพื่อความฝันของเขา ส่วนรูปร่างก็ขอแค่เป็นคนที่สูงกว่าฉันก็พอค่ะ โอ๊ะ! เป็นคนอ่อนโยนและมีดวงตาที่สดใสด้วยค่ะ เพราะฉันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริงเมื่อมีคนพูดว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ และฉันคิดว่าเราสามารถดูคนได้จากบุคลิกโดยทั่วไปของเขา ดังนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะถ้าเขาจะมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ แต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะมีอะไรที่ดีไปกว่าการได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันจากการพูดคุยค่ะ”

ลองบอกถึงเสน่ห์ 3 อย่างที่คุณจะใช้มัดใจหนุ่มในฝันให้ฟังหน่อย
“อย่างแรกรับรองได้เลยว่าต้องเป็นพลังความคิดด้านบวกของฉันค่ะ! ฉันมั่นใจว่ามันจะทำให้เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข  ข้อต่อมา ฉันจะดูแลตัวเองอย่างดีเลยค่ะ! เพราะกฎเหล็กของฉันคือ ‘เอาใจใส่ตัวเองจนกว่าจะหมดลมหายใจ’ ซึ่งฉันจะไม่มีทางฝ่าฝืนมันเด็ดขาด เพราะฉะนั้นฉันก็จะสามารถทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงไปได้ชั่วชีวิตเลยล่ะค่ะ ข้อสุดท้าย อนาคตของฉันค่อนข้างมั่นคงค่ะ! ฉันเองไม่ใช่คนประเภทที่ต้องพึ่งพาผู้ชาย เพราะแบบนั้นฉันจึงสามารถอยู่ได้ด้วยเงินที่ฉันหาได้เอง แล้วฉันก็จะไม่เป็นคนที่ทำตัวน่าเบื่อด้วยนะคะ ฉันสัญญา (หัวเราะ)”

75f3b859gw1dxygpb62poj-e1350623129682

Eng Trans : @ch0sshi
Thai Trans : @theniaz
Scan Source : deselim

Leave a comment